แม่หญิงต้องต่ำหูก

ร้อยเรื่องราวการส่งต่อภูมิปัญญาการทอผ้าของคนอีสาน

โดยทั่วไปชาวอีสานมีสังคมแบบเกษตรกรรมเพื่อยังชีพ ส่วนใหญ่มีอาชีพหลักคือการทำนา ซึ่งต้องใช้เวลาตั้งแต่เพาะปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยวประมาณ 7 – 9 เดือน ในแต่ละปีตลอดฤดูฝนและฤดูหนาว ส่วนเวลาในช่วงฤดูร้อนประมาณ 3 – 5 เดือน ที่ว่างจากการทำนา ชาวอีสานจะทำงานทุกอย่างเพื่อเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งการทำบุญ ประเพณี และการพักผ่อนหย่อนใจตามโอกาสต่าง ๆ นับเป็นวงจรของการดำรงชีพที่หมุนเวียนเช่นนี้ในแต่ละปี

ยามว่างจากงานในนา ผู้หญิงทอผ้า ผู้ชายจักสาน” เป็นคำกล่าวที่สะท้อนให้เห็นสภาพการดำรงชีวิตและสังคมของชาวอีสาน ดังนั้นการทอผ้าจึงเป็นงานสำคัญของผู้หญิง ผ้าที่ทอจะใช้เป็นเครื่องนุ่งห่ม ได้แก่ เสื้อ ซิ่น (ผ้านุ่ง) ซ่ง (กางเกง) โสร่ง ผ้าขาวม้า ผ้าคลุมไหล่ เครื่องนอน หมอน มุ้ง ผ้าห่ม และเครื่องใช้ที่จะถวายพระในงานบุญประเพณีต่าง ๆ เช่น ที่นอน หมอน ผ้าห่อคัมภีร์ ผ้ากราบ ผ้าพระเวสส์ เป็นต้น

ในอดีตการทอผ้าหรือคนอีสาน-ลาว เรียกว่า “ต่ำหูก” ซึ่งในสังคมของคนในลุ่มน้ำโขงโดยเฉพาะในภาคอีสาน และในสปป.ลาว ได้มอบหมายหน้าที่อันสำคัญยิ่งนี้ให้เป็นหน้าที่ของลูกผู้หญิงทุกคน ถือว่าเป็นงานที่ลูกผู้หญิงทุกคนต้องเรียนรู้จากคนในครอบครัวซึ่งก็คือ แม่ โดยที่แม่ก็ได้รับการถ่ายทอด ฝึกฝนมาจากยาย จากย่าเป็นทอดๆ กันไปอย่างนี้มาหลายรุ่น เป็นการฝึกสอนโดยไม่มีการจดบันทึกหรือแบบแผนที่ชัดเจนแต่เป็นการฝึกจากการเรียนรู้ลองผิดลองถูกและลงมือปฏิบัติต่อเนื่องเป็นเวลานานจนเกิดความชำนาญ ส่วนผู้ชายได้รับมอบหน้าที่ในการหาอาหาร สร้างที่อยู่อาศัย ดังนั้นในสังคมของคนในยุคก่อนจึงได้ถูกแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน 

ดังมีคำกล่าวว่า “แม่หญิง ต้อง ต่ำหูก” หมายถึง ผู้หญิงในสังคมอีสาน-ลาว ต้องทอผ้าเป็นและเป็นการทอผ้าที่มีความสวยงาม วิจิตรบรรจง เพราะจะกลายเป็นเอกลักษณ์และเป็นสมบัติอันล้ำค่าของครอบครัววงศ์ตระกูลต่อไป

“สิบบ้านซ่า ห้าบ้านลือ ว่าลูกสาวเฮือนนี้ ต่ำผ้าฝายได้มือสามวา

ต่ำผ้าไหมได้มื้อสามศอก ออกนอกบ้านบ่ย่างไปดาย

ไปหัวสวนเก็บดอกฝ้าย ไปหัวนาเก็บใบหม่อน”

จากบทกลอนข้างต้น ต้องการสื่อความหมายถึง การที่ผู้เฒ่าผู้แก่ฝ่ายผู้ชายจะยกยอฝ่ายหญิงสาวถึงคุณสมบัติที่เพียบพร้อมเหมาะสมสำหรับการออกเรือนหรือมาเป็นลูกสะใภ้ ว่าลูกสาวบ้านนี้ได้รับคำร่ำลือว่ามีความขยันขันแข็งในการเข็ญฝ่ายปั่นไหมและมีความสามารถในการทอผ้าเป็นอย่างดี

ต่ำหูก ผูกสัมพันธ์สองวัฒนธรรม

จากผืนผ้าทอ สู่สะพานเชื่อมระหว่างสองวัฒนธรรม